เครื่องย่อยขยะอัตโนมัติรักษ์โลกจริงไหม? เครื่องย่อยขยะเศษอาหารใช้ไฟมากเท่าไหร่? เครื่องกำจัดเศษอาหารช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้แค่ไหน?

คุณกำลังกังวลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนอยู่หรือไม่? บางทีคุณอาจจะกำลังคิดว่าเราน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้รึเปล่าเพื่อช่วยสิ่งแวดล้อมของเรา แต่ไม่ว่ายังไง สิ่งหนึ่งที่คุณอาจจะนึกถึงอยู่ก็อาจจะเป็นเครื่องย่อยขยะเศษอาหารก็เป็นได้

คุณอาจจะเคยได้ยินสรรพคุณเจ้าเครื่องย่อยเศษอาหารให้เป็นปุ๋ยนี้มาบ้าง แต่คุณก็อาจจะมีคำถามอยู่บ้างว่ามันรักษ์โลกจริงหรือไม่ เครื่องย่อยขยะอัตโนมัติเปลืองไฟมากไหม แล้วมันจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้มากน้อยแค่ไหน

หากคุณยังลังเลอยู่ว่าจะลงทุนซื้อเครื่องกำจัดขยะเศษอาหารนี้ดีหรือไม่ บทความนี้จะมาช่วยไขคำตอบของคำถามข้างต้น และให้ข้อมูลเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

และนี่คือทั้งหมดที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับเครื่องย่อยขยะเศษอาหาร

เครื่องย่อยขยะอัตโนมัติรักษ์โลกจริงไหม?

ถ้าเป็นบริษัทผลิตปุ๋ยแบบปกติก็คงบอกว่าเครื่องย่อยขยะอัตโนมัติมันไม่ได้รักษ์โลกเลยซักนิด แต่บอกได้เลยว่าความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเท่าใดนัก เพราะจริงๆ แล้วการใช้เครื่องย่อยขยะอัตโนมัติจะช่วยลดปริมาณเศษขยะอาหารที่แต่ละบ้านเหลือทิ้งได้มากกว่าที่ใครหลายคนคิด หรืออย่างน้อยๆ คิดแบบง่ายที่สุดอย่างน้อยก็ดีกว่าทิ้งเศษอาหารให้กลายเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งบนกองภูเขาขยะแหละนะ

จริงอยู่กว่าเครื่องย่อยขยะอัตโนมัติจำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อให้เครื่องทำงาน (ซึ่งเราจะพูดถึงในหัวข้อต่อไป) และข้อเท็จจริงอีกอย่างที่เราปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ปุ๋ยที่เกิดจากการหมักแบบดั้งเดิมนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่า (แต่ก็ใช้เวลานานกว่าเช่นกัน) แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าไม่ใช่ทุกบ้านที่นึกอยากจะหมักปุ๋ยใช้เองแล้วจะสามารถทำได้เลย อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในทันที โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯ ที่มีแค่ระเบียงเล็กๆ ไว้ตากผ้าเท่านั้น ดังนั้นทางเลือกที่เหลือที่สามารถทำได้ก็เหลือไม่มากนัก และเครื่องย่อยขยะอัตโนมัติก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนที่สุดแล้วในการทำปุ๋ยเพื่อใช้เอง

ถ้าถามว่า แล้วเครื่องย่อยขยะฯ ให้วิธีการหมักปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพที่สุดได้ไหม? ก็คงไม่สามารถตอบว่าได้ แต่ถ้าถามว่าเครื่องย่อยขยะอัตโนมัติให้ความสะดวกและวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับการทำปุ๋ยเพื่อใช้ในครัวเรือนที่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้มากขนาดเป็นสวนขนาดใหญ่หรือมีปริมาณเศษอาหารต่อวันไม่ได้มากขนาดที่ต้องใช้วิธีหมักแบบดั้งเดิมได้หรือไม่? ก็ต้องบอกเลยว่า แน่นอนที่สุด

ท้ายที่สุดแล้ว แม้เครื่องย่อยขยะอัตโนมัติจะช่วยลดขยะจากเศษอาหารได้พร้อมลดปริมาณการปล่อยก๊าซมีเทนที่เป็นก๊าซเรือนกระจก แต่ก็ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการหมักปุ๋ยแบบดั้งเดิม แต่ก็ยังดีกว่าทิ้งเศษอาหารไปอย่างไร้ประโยชน์

เครื่องย่อยขยะเศษอาหารใช้ไฟมากแค่ไหน?

คุณอาจจะคิดว่าเครื่องย่อยขยะเศษอาหารจริงๆ มันก็ไม่ได้รักษ์โลกเท่าไหร่เลยนี่ เพราะยังไงก็ต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงานอยู่ดี ข่าวดีก็คือ หากต้องพูดเปรียบเทียบกันจริงๆ เครื่องย่อยขยะเศษอาหารใช้ไฟน้อยมากๆ ประหยัดไฟมากๆ และเมื่อเปรียบเทียบกับก๊าซเรือนกระจกที่เครื่องสร้างกับที่สามารถลดได้จากการย่อยเศษขยะอาหารที่เครื่องทำได้ จะพบว่ามันเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยิ่งกว่าคุ้มค่าเสียอีก

ปริมาณไฟฟ้าที่เครื่องย่อยเศษขยะอาหารก็แตกต่างไปตามแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ แต่ถ้าเอาเฉลี่ยเลยก็คือ คุณสามารถเห็นการบริโภคพลังงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1 – 1.5 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ต่อรอบการย่อยได้เลย (แทบไม่ต่างจากการทำอาหารในเครื่อง slow cook เลยนะ)

หากเรามองในภาพรวม เครื่องย่อยขยะเศษอาหารเป็นนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากๆ อย่างหนึ่ง และต้องการพลังงานในการทำงานที่น้อยมากๆ ในการเปลี่ยนจากขยะเศษอาหารไปเป็นปุ๋ยชีวภาพที่จะช่วยให้พืชของคุณเติบโตอย่างแข็งแรงและมีคุณภาพ

เครื่องกำจัดเศษอาหารช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้แค่ไหน?

ครัวเรือนกินพื้นที่ใหญ่ที่สุดในชาร์ต ‘สถานที่ที่สร้างเศษขยะอาหารมากที่สุด’ เอาจริงๆ แค่ในสหรัฐฯ ประเทศเดียว 37.2% ของขยะเศษอาหารทั้งหมดมาจากภาคครัวเรือน แล้วคุณจะอึ้งว่าเครื่องย่อยขยะเศษอาหารสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเศษอาหารเหล่านี้ได้มากขนาดไหน

คุณรู้หรือไม่?  ทุกๆ ปอนด์ของขยะเศษอาหารที่พวกเราโยนๆ ทิ้งกัน (และส่วนมากก็ไปจบที่กองภูเขาขยะซักที่) สามารถก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 3.8 ปอนด์เลยทีเดียว

แล้วถ้าภาคครัวเรือนสร้างเศษขยะอาหารโดยเฉลี่ยราวๆ 1.96 กิโลกรัมต่อวัน (4.32 ปอนด์) เป็นประจำทุกวันตลอดทั้งปี ก๊าซเรือนกระจกจะเกิดขึ้นเป็นปริมาณมากกว่า 5,500 ปอนด์ต่อปี! ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมาก แต่ก็สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เช่นกันเพียงใช้เครื่องย่อยเศษขยะอาหารเท่านั้น

แล้วลองคิดดูว่า ถ้าทุกคนตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้เครื่องย่อยเศษอาหารล่ะ? จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยอินเดียน่าในสหรัฐอเมริกาพบว่า หากประชาชนชาวอเมริกันทุกคนหันมาย่อยเศษขยะอาหารกันทุกคน จะช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้เท่ากับการลดปริมาณรถยนต์บนถนน 7.8 ล้านคัน!

แน่นอนว่าต่อให้มันกลายเป็นวาระแห่งชาติและมีการบัญญัติกฎหมาย แต่การจะให้ทุกคนหันมาย่อยขยะกันเองเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น หากเราสามารถช่วยอะไรได้ มันก็คุ้มค่าที่จะลองทำนะ

สรุป

อย่างที่คุณเห็น เครื่องย่อยเศษขยะอาหารเป็นอุปกรณ์ที่คุ้มค่าแก่การลงทุน แถมยังช่วยลดปริมาณคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ของเราได้อีกด้วย

จริงอยู่มันไม่ได้ดีไปกว่าการหมักปุ๋ยแบบดั้งเดิม แต่มันจะเป็นทางเลือกที่เหมาะมากๆ สำหรับครัวเรือนที่ไม่ได้มีพื้นที่ และมอบความสะดวกในหลายๆ ด้าน

แล้วมันจะดีขึ้นไปอีกหากคุณเป็นคนรักต้นไม้ มีต้นไม้ในบ้านจำนวนหนึ่ง 

เราจะทิ้งเศษอาหารอย่างไรประโยชน์ไปทำไม หากเราสามารถเปลี่ยนเศษขยะอาหารเหล่านั้นให้กลายเป็นอาหารของต้นไม้ของเราแทนได้

ลองนึกถึงผลพลอยได้ที่เราจะได้จากการลงทุนในเครื่องย่อยเศษอาหารนี่สิ มีปุ๋ยไว้ทำแปลงผักขนาดเล็กไว้ทานในครัวเรือน มีต้นไม้เพิ่มเติมได้ ที่จะช่วยในเรื่องปรับปรุงอากาศภายในห้อง เสริมสร้างคุณภาพจิต ดึงดูดแมลงสำหรับการผสมเกสรให้พืชพรรณต่างๆ ให้เจริญเติบโตได้ดีต่อไป ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้กับเครื่องย่อยเศษขยะอาหาร

ในท้ายที่สุด เราก็อยากแนะนำทุกคน หากเป็นไปได้ การลงทุนในเครื่องย่อยเศษอาหารจะเป็นประโยชน์ทั้งกับคุณ และกับโลกโดยแท้จริง!